วันที่ 1 :
( เริ่มเวลา 07:00 )
กรุงเทพ – ทองผาภูมิ - สังขละบุรี – วัดวังวิเวการาม - ล่องเรือชมเมืองบาดาล
วันที่ 1 กรุงเทพ – ทองผาภูมิ - สังขละบุรี – วัดวังวิเวการาม - ล่องเรือชมเมืองบาดาล
06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ เพื่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยวและเป็นไปตามมาตรฐาน SHA เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจวัดอุณหภูมิของลูกค้าเพื่อคัดกรองก่อนขึ้นรถ บนรถจะมีแอลกอฮอล์เจลล้างมือให้บริการ และเว้นระยะห่างการนั่งในรถ
รับประทานอาหารว่างบนรถ ระหว่างเดินทาง
06:30 น. ออกเดินทางสู่จังหวัดกาญจนบุรี
09:30 น. วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ เป็นวัดมหายานจีนนิกาย มีชื่อเรียกภาษาจีนว่า “ฉื่อปุยซ้อผู่ทีเซียมยี่” ความเป็นมาในการสร้างวัดเริ่มจากในปี พ.ศ. 2537 พระอาจารย์เย็นหมง จากวัดโพธิ์เย็น อำเภอท่ามะกา ได้เดินทางธุดงค์มาปฏิบัติธรรมและเห็นว่าสถานที่มีความเหมาะสมที่จะสร้างวัด จึงได้หารือกับญาติโยมหลายฝ่ายและได้รับการสนับสนุนการดำเนินงาน จึงได้ก่อตั้งมูลนิธิเมตตาธรรมโพธิญาณขึ้นและขอซื้อสิทธิที่ดินจากชาวบ้าน รวม 242 ไร่ และดำเนินการสร้างวัดตามขั้นตอนของทางราชการในปี พ.ศ.2542 ประชาชนทั่วไปนิยมเดินทางไปสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาและเสริมชะตาบารมี
11:30 น. เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
15.00 น. นำท่านเข้าชม วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ นับเป็นศูนย์รวมจิตใจของชนเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในอำเภอสังขละบุรี ทั้งชาวไทย ชาวกะเหรี่ยง และโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่มีความเลื่อมใสและศรัทธาหลวงพ่ออุตตมะเป็นดั่ง "เทพเจ้าแห่งชาวมอญ" วัดวังก์วิเวการาม เกิดขั้นจากพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ และยังเป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะเคยจำพรรษา วัดแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของหลวงพ่อ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมอญ ในการประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของมอญ
16:30 นำท่าน ล่องเรือวัดเมืองเก่า และหอระฆังของเมืองบาดาล (โบสถ์จมน้ำ) “วัดวังก์วิเวการาม” (เก่า) หรือ “วัดหลวงพ่ออุตตมะ” เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ในปี พ.ศ.2496 ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 220 กิโลเมตร ต่อมาปี พ.ศ. 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำแล้ว น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย จึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดและอาคารบ้านเรือน ปัจจุบันอุโบสถหลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำ ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งเมื่อน้ำลดระดับลง เมืองบาดาลทั้งเมืองก็จะเผยความงดงามของโบราณสถาน
เย็นรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 2)
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พัก สวนแมกไม้ รีสอร์ท หรือเทียบเท่า (สังขละบุรี)